WAT SUWANKIRI (วัดสุวรรณคีรี)

Powered By Blogger

วันพุธที่ 28 เมษายน พ.ศ. 2553

โบราณวัตถุสถานที่ที่น่าสนใจ



โบราณวัตถุสถานที่ที่น่าสนใจภายในวัดมีดังนี้




๑. เจดีย์ ตั้งอยู่หน้าวัดเป็นเจดีย์ก่อด้วยอิฐถือปูน ฐานเจดีย์เป็นรูปทรงกระบอกตั้งอยู่บนก้อนหินใหญ่ รอบฐานทั้ง ๔ ทิศ มีรูปพระสาวกปูนปั้นนูนต่ำประนมมืออยู่ภายในวงกลม องค์ระฆังแบบคว่ำมีลวดลายเป็นปุนปั้นรูปพวงดอกไม้ประดับรอบองค์ อิทธิพลศิลปะจีน สร้างสมัยรัตนโกสินทร์


๒. อุโบสถ ตั้งอยู่บนเนินสูงก่อด้วยอิฐถือปูน มีทางขึ้นสู่เนินอุโบสถด้านละ ๒ ทางเว้นด้านหลัง ตัวอุโบสถก่อด้วยอิฐถือปูน ขนาดกว้างประมาณ ๘.๒๕ เมตร ยาว ๑๕.๙๐ เมตร มีบันไดขึ้นพระอุโบสถ ๔ ทาง แต่ละบันไดมีรูปสิงโตจำหลักหิน ๒ ตัว รวมเป็น ๘ ตัว อุโบสถมีประตู ๔ประตู ด้านหน้า ๒ ประตู ด้านหลัง ๒ ประตู ด้านหน้ามีตุ๊กตาจีนเฝ้า ๒ ตัว หน้าบันทั้งด้านหน้าและด้านหลังมีลวดลายปูนปั้นรูปดอกไม้และสัตว์ป่า เช่น กระจง และ กระรอก และ ประดับด้วยเครื่องถ้วยเครื่องชามจีนอย่างสวยงาม ภายในอุโบสถมีเสาสี่เหลี่ยมรองรับหลังคา ๒ แถว แถวละ ๖ ต้น บัวหัวเสาเป็นรูปบัวเหลี่ยม แบบศิลปะโคธิคของชาติตะวันตก พระประธานก่อด้วยอิฐถือปูนลงรักปิดทองปางมารวิชัย ขนาดใหญ่จำนวน ๓ องค์ มีรูปพระสาวก พระโมคคัลลานะ พระสารีบุตร ซ้ายขวาตามลำดับ ด้านหน้าพระประธานมีพระพุทะรูปอีกหลายองค์ เช่น พระพุทธรูปบุเงินปางอุ้มบาตร ๑ องค์ พระพุทธรูปทรงเครื่องใหญ่ ปางห้ามสมุทร ปางห้ามมาร พระพุทธรุปหินอ่อนศิลปะพม่า ๒ องค์ และพระพุทธรูปจำหลักไม้ฝีมือช่างท้องถิ่นจำนวนมาก ฝาผนังอุดบสถทั้ง ถ ด้าน สมัยก่อนมีจิตรกรรมฝาผนัง ตอนล่างเป็นเรื่องทศชาติ ตอนบนเป็นเรื่องพุทธประวัติ แต่น่าเสียดายว่าปัจจุบันจิตรกรรมฝาผนังถูกน้ำฝนลบเลือนเกือบหมดแล้ว เหลือเพาะผนังด้านหลังพระประธานเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ซึ่งเขียนเป็นภาพสวรรค์ชั้นต่างๆ วิมานปราสาทนางฟ้าเทพบุตรลอยอยู่ตามหมู่เมฆ เรียงเป็นชั้นๆ ขึ้นไปจนสูงสุด เป็นภาพปราสาทใหญ่ภายในมีพระอินทร์ประทับนั่ง มีนางฟ้าเทวดา เฝ้าห้อมล้อม ตอนใต้ของปราสาท ศิลปะ

วันศุกร์ที่ 23 เมษายน พ.ศ. 2553

วัดสุวรรณคีรี

ประวัติ:วัดสุวรรณคีรี ตั้งอยู่ที่หมู่ที่ ๒ ตำบลหัวเขา อำเภอสิงหนคร จังหวัดสงขลา ชาวบ้านเรียกว่า "วัดออก" เพราะเป็นวัดที่ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกของวัดบ่อทรัพย์ เป็นวัดโบราณคู่บ้านคู่เมืองสงขลา สมัยที่ตั้งเมืองท่าแหลมสนในสมัยก่อน พ.ศ. ๒๓๗๙ วัดสุวรรณคีรีเป็นวัดที่ใช้ถือน้ำพิพัฒน์สัตยาของข้าราชการเมืองสงขลา สำหรับผู้สร้างวัดนั้นหลักฐานยังไม่แน่ชัดว่าเป็นผู้ใด พระยาวิเชียรคีรี(เม่น ณ สงขลา) ผู้สำเร็จราชการเมืองสงขลาคนที่ ๖ (พ.ศ.๒๔๐๘-๒๕๒๗) ได้แต่งโคลงไว้บทหนึ่งว่า

"วัด ไทธิเบศร์เจ้า จอมนรินทร์

สุ สวรรค์คัลลัยถวิล สร้างไว้

วรรณ ประโยชน์เพิ่มภิญ โญยศ กันเฮย

คีรี ล้างลบรายได้ สร้างเชตถพนถวาย"


ตามโคลงนี้ทำให้ทราบว่า เจ้าเมืองสงขลาคนใดคนหนึ่งเป็นผู้สร้างวัด ถ้าพิจารณาตามชื่อวัดแล้วผู้สร้างก็น่าจะเป็น หลวงสุวรรณคีรี (เหยียง ณ สงขลา) ผู้สำเร็จราชการเมืองสงขลาคนที่ ๑ (พ.ศ.๒๓๑๘-๒๓๒๒) หรือ หลวงสุวรรณคีรีสมบัติ (บุญฮุย ณ สงขลา) ผู้สำเร็จราชการคนที่ ๒ (พ.ศ.๒๓๒๒-๒๓๕๕) เพราะใช้นามว่าหลวงสุวรรณคีรีสมบัติ ซึ่งเป็นนามพ้องกับวัดมีเพียง ๒ คน เท่านั้น นอกจากนี้ยังมีหลักฐานคำจารึกที่เจดีย์จีน(ถะ) หน้าอุโบสถวัดสุวรรณคีรีว่า เจ้าพระยาสงขลา (บุญฮุย ณ สงขลา) เป็นผู้สร้างเจดีย์เมื่อ พ.ศ.๒๓๔๐ สำเร็จเมื่อวันที่ ๒๙ มีนาคม พ.ศ. ๒๓๔๑ จึงพอสันนิษฐานได้ว่า วัดสุวรรณคีรี สร้างขึ้นในสมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้น ร่วมสมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช วัดสุวรรณคีรีเป็นวัดประจำตระกูล ณ สงขลา จึงได้รับการดูแลบูรณะปฏิสังขรณ์ต่อมาเรื่อยๆ เมื่อย้ายเมืองสงขลาจากท่าแหลมสนมายังตำบลบ่อยาง พ.ศ.๒๓๓๙ วัดสุวรรณคีรีเริ่มทรุดโทรมลงมาก จนกระทั่งพ.ศ. ๒๕๑๖-๒๕๑๗ จึงได้รับการบูรณะใหม่อีกครั้ง